เปิดตัวแล้ว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
ReadyPlanet.com
dot
ค้นหาสินค้า ตลับหมึกเลเซอร์ LASUPRINT


  [Help]
dot
ตลับหมึก LASUPRINT ตรวจสอบเลขที่พัสดุ
ข้อมูลการติดต่อ Line ID : @lasuprint
แนะนำติชม สินค้าและบริการ
ตลับหมึก โปรโมชั่น ซื้อ 4 ตลับ แถมฟรี 1 ตลับ
ตลับหมึกเลเซอร์ Lasuprint Toner Cartridges
ตลับหมึก Brother
ตลับหมึก Canon
ตลับหมึก DELL
ตลับหมึก Epson
ตลับหมึก Xerox
ตลับหมึก HP
ตลับหมึก KYOCERA
ตลับหมึก Lexmark
ตลับหมึก OKI
ตลับหมึก PANASONIC
ตลับหมึก Ricoh
ตลับหมึก Samsung
ตลับหมึก pantum
ตลับผ้าหมึกพิมพ์ Printer Ribbon
ตลับผ้าหมึก Ribbon Epson
ตลับผ้าหมึก Ribbon OKI
ตลับผ้าหมึก Ribbon Fujitsu
ตลับผ้าหมึก Panasonic
ตลับผ้าหมึก Seikosha
ผ้าหมึก Refill RIBBON
เครื่องปริ้นเตอร์ เครื่องพิมพ์เลเซอร์
เครื่องปริ้นเตอร์ Brother
เครื่องปริ้นเตอร์ Canon
เครื่องปริ้นเตอร์ HP
เครื่องปริ้นเตอร์ OKI
เครื่องปริ้นเตอร์ Ricoh
เครื่องปริ้นเตอร์ Samsung
เครื่องปริ้นเตอร์ Fuji Xerox
เครื่องพิมพ์ Printer Epson
หมึกเติม กันน้ำ อิงค์เจ็ท DURABrite
หมึกเติม กันน้ำ Epson L-Series อิงค์เจ็ท DURABrite
หมึกเติม กันน้ำ Epson อิงค์เจ็ท Pigment
หมึกเติม อิงค์เจ็ท Inkjet Refills
หมึกเติม INKJET BROTHER
หมึกเติม INKJET BROTHER T-Series
หมึกเติม INKJET CANON
หมึกเติม InkJet Canon G Series
หมึกเติม INKJET EPSON
หมึกเติม INKJET Epson L-Series
หมึกเติม INKJET HP
หมึกเติม InkJet HP GT-Series
น้ำยางล้างหัวแม่พิมพ์ หมึกเติม INKJET HP,CANON,BROTHER,EPSON
น้ำยาล้างหัวพิมพ์ Brother
น้ายาล้างหัวพิมพ์ Canon
น้ำยาล้างหัวพิมพ์ Epson
น้ำยาล้างหัวพิมพ์ HP
ชุดผงหมึกเติม
ชุดผงหมึกเติม BROTHER
ชุดผงหมึกเติม CANON
ชุดผงหมึกเติม Dell
ชุดผงหมึกเติม EPSON
ชุดผงหมึกเติม HP
ชุดผงหมึกเติม Kyocera
ชุดผงหมึกเติม Lexmark
ชุดผงหมึกเติม Oki
ชุดผงหมึกเติม Panasonic
ชุดผงหมึกเติม Ricoh
ชุดผงหมึกเติม SAMSUNG
ชุดผงหมึกเติม XEROX
dot
Member
อีเมล :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
Subscribe News

dot
dot
Shopping cart
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน








เปิดตัวแล้ว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus article


เปิดตัวแล้ว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ด้วยบอดี้แบบกระจก พร้อมชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core, กล้องคู่ 12MP และรองรับการชาร์จไร้สาย เคาะราคาเริ่มต้นที่ 24,900 บาท จำหน่าย 22 กันยายนนี้

นอกจากในงานอีเวนท์เปิดตัว iPhone วันนี้ จะมีการเปิดตัว iPhone X แล้ว ยังได้มีการเปิดตัว iPhone อีก 2 รุ่น นั่นก็คือ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus รุ่นสานต่อของ iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus นั่นเอง (iPhone ในปีนี้ ไม่ได้ใช้ชื่อ iPhone 7S กับ iPhone 7S Plus) ซึ่งถึงแม้ว่า ดีไซน์ของ iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus จะยังคงคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นก็คือ บอดี้เป็นแบบกระจกและอะลูมิเนียม ซึ่งใช้กระจกแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Steve Jobs Theater

สำหรับงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Steve Jobs Theater ซึ่งเป็นหอประชุมแห่งใหม่ใน Apple Park ที่สร้างขึ้นมาเพื่อระลึกถึง Steve Jobs อดีตซีอีโอ Apple เพื่อล่วงลับนั่นเอง แม้ว่าดีไซน์ของ iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus จะไม่เปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ในด้านสเปกและคุณสมบัติอื่น ๆ เรียกได้ว่า เทียบเท่า iPhone X เลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะมีคุณสมบัติเด่นอะไรกันบ้าง


สเปก iPhone 8

  • ขนาดตัวเครื่อง 138.4 x 67.3 x 7.3 มม. หนัก 148 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 4.7 นิ้ว แบบ True Tone Display (IPS LCD) ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326 ppi)
  • ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core Processor (64-bit) พร้อมระบบ Neural Engine และ Apple M11 หน่วยประมวลผลร่วมสำหรับประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว
  • หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB และ 256 GB
  • กล้องด้านหน้าแบบ FaceTime ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2 
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น (OIS), รูรับแสง F/1.8 และไฟแฟลชแบบ Quad-LED (4 ดวง)
  • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
  • รองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย และระบบชาร์จเร็ว
  • ฟีเจอร์ 3D Touch และ Touch ID ที่ปุ่ม Home
  • พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Lightning
  • ลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ เสียงดังขึ้นกว่าเดิม 25%
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 11
  • มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gold, Silver และ Space Gray
  • ราคา iPhone 8 ในสหรัฐฯ อยู่ที่ $699 (ประมาณ 24,900 บาท) สำหรับขนาด 64 GB และ $849 (ประมาณ 29,900 บาท) สำหรับขนาด 256 GB
  • สเปก iPhone 8 Plus
  • ขนาดตัวเครื่อง 158.4 x 78.1 x 7.5 มม. หนัก 202 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ True Tone Display (IPS LCD) ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
  • ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core Processor (64-bit) พร้อมระบบ Neural Engine และ Apple M11 หน่วยประมวลผลร่วมสำหรับประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว
  • หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB และ 256 GB
  • กล้องด้านหน้าแบบ FaceTime ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2 
  • กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบด้วยเลนส์มุมกว้าง รูรับแสง F/1.8 และเลนส์ Telephoto รูรับแสง F/2.8, ระบบกันสั่นคู่ OIS, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED True Tone Flash, รองรับโหมด Portrait กับ Portrait Lighting และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า
  • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
  • รองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย และระบบชาร์จเร็ว
  • ฟีเจอร์ 3D Touch และ Touch ID ที่ปุ่ม Home
  • พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Lightning
  • ลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ เสียงดังขึ้นกว่าเดิม 25%
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 11
  • มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gold, Silver และ Space Gray
  • ราคา iPhone 8 Plus ในสหรัฐฯ อยู่ที่ $799 (ประมาณ 27,900 บาท) สำหรับขนาด 64 GB และ $949 (ประมาณ 33,900 บาท) สำหรับขนาด 256 GB

 

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ ด้วยบอดี้แบบกระจกและอะลูมิเนียม


iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ ทำมาจากกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ซึ่งผิวกระจกผ่านกระบวนการลงหมึกถึง 7 ชั้น ทำให้สามารถแสดงเฉดสีและความทึบแสงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความอิ่มสีที่มีมิติยิ่งขึ้น นอกจากนี้ขอบเครื่องยังใช้อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศสีเดียวกับกระจก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติด้านการกันน้ำกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP67

 

หน้าจอแบบ Retina HD ใหม่ แสดงสีสันได้แม่นยำขึ้น

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมกับจอภาพแบบ Retina HD ใหม่ ขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ตามลำดับ (ขนาดเท่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เดิม) พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone ที่ช่วยปรับ White Balance บนหน้าจอให้ตรงกับแสงโดยรอบอยู่ตลอดเวลา ทำให้รับชมภาพที่มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งจอภาพแบบ Retina HD นั้น ยังรองรับขอบเขตสีกว้าง และสามารถแสดงสีสันได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

 

กล้องบน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ปรับปรุงใหม่ เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว


ด้านกล้องถ่ายรูปที่ถือว่า เป็นหัวใจหลักของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นั้น ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น โดย iPhone 8 มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ Processor รับสัญญาณภาพใหม่ที่ออกแบบโดย Apple สามารถบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้าง, ออโต้โฟกัสได้เร็วขึ้นในสภาพแสงน้อย และถ่ายภาพ HDR ได้ดีขึ้น


สำหรับ iPhone 8 Plus มาพร้อมกับกล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และโหมดใหม่ Portrait Lightning (การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล) แบบเดียวกับ iPhone X กับคุณสมบัติในการถ่ายภาพด้วยเอฟเฟกต์ระยะชัดตื้นในสไตล์การจัดแสงที่แตกต่างกัน 5 แบบ

ด้านการถ่ายวีดีโอ รองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K สูงสุด 60fps และ Slow Motion แบบ 1080p สูงสุด 240fps นอกจากนี้ ยังรองรับ HEIF และ HEVC ที่บีบอัดข้อมูลได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า และจัดเก็บรูปภาพและวีดีโอได้มากขึ้นอีก 2 เท่า


iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมกับชิป Apple A11 Bionic (6-Core) แบบเดียวกับ iPhone X

เช่นเดียวกับ iPhone X เมื่อ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core Processor ซึ่งประกอบด้วย 2-Core สำหรับการประมวลผลขั้นสูง ที่เร็วขึ้น 25% และ 4-Core สำหรับการประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งเร็วกว่าชิปเซ็ต Apple A10 Fusion บน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ถึง 70% สามารถทำงานทั้ง 6-Core ไปได้พร้อม ๆ กัน ทำให้สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ ด้าน GPU ออกแบบโดย Apple ซึ่งเป็นแบบ 3-Core ประมวลผลได้เร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน


iPhone 8 และ iPhone 8 Plus รองรับการชาร์จแบบไร้สาย


ด้วยดีไซน์ด้านหลังแบบกระจก ทำให้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สามารถรองรับการชาร์จแบบไร้สาย โดยสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของ Qi ซึ่งรวมถึงแผ่นรองชาร์จไร้สายแบบใหม่สองรุ่นจาก Belkin และ mophie


เผยโฉม AirPower อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จแบบไร้สาย รองรับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 3 ชิ้น


AirPower คืออุปกรณ์เสริมด้านการชาร์จแบบไร้สายสำหรับ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นก็คือ รองรับการชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 3 ชิ้น นอกเหนือจาก iPhone ทั้ง 3 รุ่นแล้ว ยังรวมถึง Apple Watch Series 3 และกล่องชาร์จ AirPods แบบไร้สายใหม่ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2018


รองรับเทคโนโลยี AR และทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 11


iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อม iOS 11 ที่ช่วยพัฒนาโหมด Portrait ให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงมีเอฟเฟกต์ใหม่ ๆ สำหรับการถ่าย Live Photos ให้มีลูกเล่นมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยี AR อีกด้วย

 

ราคา iPhone 8 และ iPhone 8 Plus พร้อมวันวางจำหน่ายในไทย

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะเปิดพรีออเดอร์ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2017 และวางจำหน่ายในวันที่ 22 กันยายน เป็นต้นไป โดยรอบแรก จะวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา

ส่วนรอบที่สอง จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนนี้ ในประเทศอันดอร์รา, บาห์เรน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, กรีซ, กรีนแลนด์, เกิร์นซีย์, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, เกาะแมน, เจอร์ซีย์, คอซอวอ, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, มัลดีฟส์, มอลตา, โมนาโก, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, สโลวะเกีย และสโลวีเนีย

โดยจากรายชื่อประเทศในข้างต้น จะเห็นว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทย แต่จากการวางจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ในแต่ละปี พบว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคม ก็น่าจะมีข่าวดีกันแล้ว ทีมงาน techmoblog จึงขอคาดการณ์ว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะเริ่มเปิดให้จับจองและวางจำหน่ายกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป


ด้านราคา iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ตอนนี้มีราคาในสหรัฐฯ ออกมาแล้ว ดังนี้

  • iPhone 8 64 GB ราคา $699 (ประมาณ 24,900 บาท)
  • iPhone 8 256 GB ราคา $849 (ประมาณ 29,900 บาท)
  • iPhone 8 Plus 64 GB ราคา $799 (ประมาณ 27,900 บาท)
  • iPhone 8 Plus 256 GB ราคา $949 (ประมาณ 33,900 บาท)
  • iPhone X 64 GB ราคา $999 (ประมาณ 35,000 บาท)
  • iPhone X 256 GB ราคา $1,149 (ประมาณ 40,500 บาท)

ถ้าหากเปรียบเทียบราคา iPhone 8 กับ ราคา iPhone 7 ตอนเปิดตัวพบว่า ราคาสูงขึ้น จากเดิม $649 เป็น $699 แพงกว่าเดิม $50 นั่นหมายความว่า ราคา iPhone 8 ในไทยจะสูงกว่า iPhone 7 อย่างแน่นอน โดยราคา iPhone 7 ในไทยตอนเปิดตัว อยู่ที่ 26,500 บาท นั่นหมายความว่า ราคา iPhone 8 ในไทย อาจจะอยู่ที่ 27,900 - 28,500 บาท ซึ่งถือว่า เปิดตัวด้วยราคาที่สูงพอสมควร แต่อย่าลืมว่า ราคานี้เป็นราคาของรุ่นความจุ 64 GB ซึ่งเป็นความจุเริ่มต้นของ iPhone 8 ในขณะที่ iPhone 7 นั้น เริ่มต้นที่ความจุ 32 GB เท่านั้น

สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย และราคา iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ในไทย ถ้าหากมีความคืบหน้า ทีมงานจะอัปเดตให้ทราบกันอย่างแน่นอน

 

Credit : techmoblog.com

ตลับหมึก lasuprint

www.lasuprint.com




ข่าวสารที่น่าสนใจ

สานฝันคนไทยสู่แฟชั่นโลก Raffles มอบทุนการศึกษา 200,000 บาท article
กราดยิงลาสเวกัส รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ article
Mazda CX-8 รถเอสยูวีเบาะที่นั่ง 3 แถวรุ่นใหม่ในประเทศญี่ปุ่น article
Mercedes-Benz X-Class ปิกอัพหรูรุ่นแรก..ค่ายดาวสามแฉก article
เฮอร์ริเคนเออร์มา ได้พัดถล่มเลาะชายฝั่งรัฐฟลอริดาแล้ว หลายเมืองประกาศเคอร์ฟิวรับมือภัยพิบัติ article
iPhone 8 ราคาแพงมี เหตุผลที่ Apple ไม่สามารถควบคุมได้! article
น้องธันเดอร์-น้องสตอร์ม ลูกชายฝาแฝดชมพู่ อารยา article
มาต่อเนื่องอีกลูก-พายุโซนร้อนกูโชล เตือนกทม.ฝนถล่มร้อยละ 70 article
โปสเตอร์ iPhone 8 ในจีนพร้อมราคาครบทุกรุ่น!! article
Facebook ปิด AI หลังจากที่มันคิดค้นภาษาของตัวเอง article